IN THIS SECTION
- พัฒนาการของทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 6
- การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของคุณแม่
- อาการที่พบบ่อยของคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 6
- คำแนะนำสำหรับคุณแม่
พัฒนาการของทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 6
My Baby This Week
เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 รูปร่างของตัวอ่อนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมากนัก แต่อาจเพิ่มขนาดเล็กน้อย โดยมีความยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตร หรือเท่าขนาดของเมล็ดถั่ว ถุงตา หูส่วนใน เริ่มพัฒนา ขณะที่แขนขาสังเกตเห็นเป็นเพียงตุ่มเล็กๆ ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อวัยวะภายในเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ก็พัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสมองและระบบประสาท ซึ่งมีการพัฒนาในส่วนที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ หัวใจดวงเล็กๆ ก็เริ่มเต้นเป็นจังหวะคงที่มากขึ้น ซึ่งสามารถได้ยินได้ในระหว่างตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
นอกจากนี้ ตัวอ่อนยังเริ่มถูกปกคลุมด้วยชั้นบางๆ และโปร่งใส ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นผิวหนังอย่างสมบูรณ์ต่อไป
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของคุณแม่
My Body
สัปดาห์นี้ คุณแม่หลายคนต้องรับบทหนักกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารมณ์อยู่สักหน่อย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างมาก ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ที่ทำให้คุณแม่ไม่สบายตัวและอาจรู้สึกกังวล เนื่องจากร่างกายของคุณแม่กำลังปรับตัวหลายด้านสำหรับการตั้งครรภ์
อาการที่พบบ่อยของคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 6
Signs & Common Symptoms of Pregnancy
นอกจากอาการแพ้ท้องและอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียนแล้ว อาจมีอาการและภาวะอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่
- เลือดออกในช่องปากได้ง่าย โดยเฉพาะขณะแปรงฟัน
- เป็นตะคริวบริเวณขาบ่อยๆ
- หน้ามืด วิงเวียน และเป็นลม
- รู้สึกร้อนตลอดเวลา
- ปวดศีรษะ
- ท้องอืด
- มีอาการแสบร้อนกลางอกจากรดไหลย้อน
- เกิดอาการบวมบริเวณข้อเท้า มือ และเท้า
- ท้องผูก
- ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน
- เกิดภาวะเลือดจาง
บางอาการนั้นสามารถรักษาและบรรเทาได้ด้วยการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้น แต่หากคุณแม่มีความกังวลกับอาการใดอาการหนึ่งดังที่กล่าวมานี้ ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
คำแนะนำสำหรับคุณแม่
The Doc Says
ช่วงนี้ แนะนำให้คุณแม่พักผ่อนให้มากขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และงดกิจกรรมที่เสี่ยงต่ออันตรายต่อทั้งตัวคุณแม่และตัวอ่อนในครรภ์ สิ่งสำคัญคือ ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
คุณแม่ส่วนใหญ่ที่มีอาการแพ้ท้องมากขึ้นนั้น มักมีความอยากอาหารมากขึ้นด้วย โดยอาจมีความคิดว่าคุณแม่ต้องรับประทานอาหารให้มากเข้าไว้เพื่อให้ลูกในครรภ์ได้รับอาหารอย่างเพียงพอด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นความเชื่อที่เสี่ยงทำให้คุณแม่น้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ หรืออาจนำไปสู่ภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ได้
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำวิธีที่จะบรรเทาอาการแพ้ท้องและอาการอยากอาหารมากกว่าปกติด้วยตนเองว่า คุณแม่ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ ประมาณ 6 มื้อต่อวัน โดยเน้นที่การรับประทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพเป็นสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณแม่ลดความอยากอาหารหวานที่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูงในระหว่างวันได้ดี ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้นด้วย และในแต่ละมื้อ ควรประกอบด้วยอาหารครบ 5 หมู่ นอกจากนี้ ยังควรดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการแพ้ท้องจนไม่สามารรับประทานอาหารได้เลย ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
เรามาลุ้นกันต่อว่าในสัปดาห์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่และเจ้าตัวน้อยอีกบ้าง
+ To Do: Schedule first prenatal visit