IN THIS SECTION
- พัฒนาการของทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 14
- การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของคุณแม่สัปดาห์ที่ 14
- อาการที่พบบ่อยของคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 14
- คำแนะนำสำหรับคุณแม่
พัฒนาการของทารกในครรภ์ในสัปดาห์ที่ 14
My Baby
ในสัปดาห์นี้ ลูกน้อยในครรภ์มีความยาวประมาณ 8.5-10 เซนติเมตร หรือขนาดเท่าผลส้ม ศีรษะมีทรงกลมมากขึ้น และมีขนาดได้สัดส่วนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย แขนและขาเริ่มยาวขึ้นและได้สัดส่วนกับขนาดร่างกาย ตับของทารก เริ่มผลิตน้ำดี ม้าม ก็เริ่มผลิตเม็ดเลือดแดงได้แล้วเช่นกัน ระบบไตและระบบทางเดินปัสสาวะก็สามารถทำงานได้แล้ว เมื่อทารกกลืนกินน้ำคร่ำเข้าไป ก็จะถูกขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะ
สมองที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ทารกให้ครรภ์สามารถสั่งให้กล้ามเนื้อบนหน้าทำงาน โดยทารกในสัปดาห์นี้ สามารถ
เบะหน้า ขมวดคิ้ว และหรี่ตาได้ ทั้งยังสามารถขยับตัว เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่คุณแม่ยังไม่สามารถรู้สึกได้เท่านั้นเอง
นอกจากนี้ คุณแม่อาจได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้นเป็นครั้งแรก หากได้รับการตรวจแบบดอปเปลอร์อัลตราซาวด์ (Doppler Ultrasound) ซึ่งต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 14
My body
ในสัปดาห์นี้ คุณแม่จะสังเกตได้ว่าเต้านมขยายขึ้นอย่างชัดเจนถึงร้อยละ 25-50 รวมทั้งหัวนมและลานนมใหญ่ขึ้น สีคล้ำขึ้นโดยในคุณแม่บางคน อาจพบคราบสีเหลืองในเสื้อชั้นในซึ่งก็คือ น้ำนมที่ไหลออกมา เนื่องจากในช่วงนี้ฮอร์โมน
เอสโตรเจนจะกระตุ้นท่อน้ำนมให้ขยายตัว ขณะที่ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะไปกระตุ้นต่อมน้ำนมให้โตขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ ร่างกายของคุณแม่จะสะสมไขมันมากขึ้นเพื่อเตรียมผลิตน้ำนมสำหรับทารกน้อยในอนาคต คุณแม่หลายคนจึงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรระมัดระวังในการรับประทานอาหาร โดยควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเกินไป เพราะการที่น้ำหนักเพิ่มมากเกินไประหว่างตั้งครรภ์อาจนำไปสู่ภาวะสุขภาพและโรคต่างๆ เช่น ภาวะเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อทารกในครรภ์
อาการที่พบบ่อยของคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 14
Signs & Common Symptoms of Pregnancy
อาการแพ้ท้องและอาการอื่นๆ ที่ทำให้คุณแม่ไม่สบายตัวที่มีมาในช่วงไตรมาสแรกจะบรรเทาเบาบางลงในช่วงนี้ ทำให้
คุณแม่รู้สึกดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในบางรายก็อาจยังมีอาการต่างๆ หลงเหลืออยู่ โดยอาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่พบบ่อยในช่วงนี้ ได้แก่
- รู้สึกเจ็บปวดบริเวณด้านข้างของหน้าท้อง เนื่องจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดตัวเพื่อรองรับมดลูกที่โตขึ้น
- หายใจลำบาก
- ปวดศีรษะ
- เลือดกำเดาไหล
- เจ็บหน้าอก
- เวียนศีรษะ
- ขาเป็นตะคริว
- ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ติดเชื้อในช่องคลอด
- มือและเท้าบวม
- รับประทานอาหารมากขึ้น
- ท้องอืด
- ท้องผูก
- แสบกลางอกจากรดไหลย้อน
- ความรู้สึกไวต่อกลิ่นและความชอบในการกินที่เปลี่ยนไป
- ปวดเกร็งบริเวณท้องคล้ายปวดประจำเดือน
- มีตกขาว ซึ่งตามปกติ จะมีสีขาวและไม่มีกลิ่น แต่ถ้ามีกลิ่นหรือสีเปลี่ยนไป หรือมีอาการคันผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
- มีเลือดออกทางช่องคลอด (Implantation Bleeding) หรือตามที่คนโบราณมักเรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” แต่เลือดที่ออกมาในช่วงนี้จะต่างจากเลือดประจำเดือน โดยจะออกมาปริมาณเล็กน้อย และมีสีชมพูจางๆ หรือน้ำตาล ไม่ได้เป็นสีแดงสดเหมือนเลือดประจำเดือนตามปกติ อาการนี้ถือเป็นสิ่งปกติในหญิงตั้งครรภ์ และพบเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่มีอาการนี้ ดังนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวลมากนัก
- ผิวหนังบนใบหน้ามีสีคล้ำเป็นปื้นๆ หรือเป็นฝ้า เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง หลังคลอดจะหายไปเอง คุณแม่ไม่ต้องกังวล
- ผิวหนังมันและมีจุดด่างดำ
- ผมดกขึ้นหรือขนหนาขึ้น
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ในสัปดาห์ที่ 14
The Doc Says
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ เดิน และว่ายน้ำ เป็นต้น
- ทำกิจกรรมที่คุณแม่ชื่นชอบ หรือพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึก ความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ให้คนใกล้ชิด
เพื่อลดความเครียด และวิตกกังวล - งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่มือสอง
เรามาลุ้นกันต่อว่าในสัปดาห์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่และลูกน้อยอีกบ้าง
+ To Do: Purchase some maternity clothing
+ To Do: Purchase more fiber-rich-foods